วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

โอกาสและอุปสรรคของธุรกิจรถเช่า...และการร่วมทุนทำตลาดในอาเซียน

โอกาสและอุปสรรคของธุรกิจรถเช่า...และการร่วมทุนทำตลาดในอาเซียน 



     รถยนต์จัดเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง รวมถึงมีค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมแซมบำรุงรักษา ค่าประกันภัย และภาษีประจำปี ซึ่งนับวันค่าใช้จ่ายดังกล่าว จะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ “ธุรกิจรถเช่า” กลายเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งจากองค์กร หรือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจากกลุ่มนักท่อง เที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น ธุรกิจรถเช่าจึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตและเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่วาง แผนจะขยายการลงทุน รวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่ที่สนใจเข้าสู่ตลาด 

     สำหรับการก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 น่าจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการในการขยายการลงทุนไปสู่ประเทศต่างๆในอาเซียน อย่างไรก็ตาม คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่ติดตามมาควบคู่กับโอกาสของธุรกิจรถเช่าก็คือ อุปสรรคและความท้าทายในการดำเนินธุรกิจที่คาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งการเผชิญการแข่งขันที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องมีการวางแผนและปรับตัวเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ ควรทำการศึกษาตลาดอาเซียน เพื่อใช้โอกาสจากการเปิดเสรี AEC ในการขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น 


ลักษณะการดำเนินธุรกิจรถเช่าของไทย
     ลักษณะทั่วไปของการประกอบธุรกิจรถเช่าของไทยในปัจจุบัน สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ 

     1. การให้เช่ารถยนต์เพื่อการดำเนินงานในระยะยาว (Operating Lease) เป็นการให้เช่าที่ทำเป็นสัญญาเช่าให้สิทธิลูกค้าใช้รถยนต์เป็นระยะเวลานาน ส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาในการทำสัญญาเช่าตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป โดยลูกค้าจะจ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือนหรือเหมาจ่ายตามที่ตกลงกับบริษัทผู้ให้เช่า ซึ่งลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของค่าน้ำมัน แต่ได้รับประโยชน์อื่นๆ อาทิ ลดภาระทางการเงิน ค่าใช้จ่ายในการดูแลซ่อมบำรุงและการบริหารจัดการ รวมถึงค่าใช้จ่ายดังกล่าวสามารถนำไปลงบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทและนำไปลดหย่อนภาษีได้ สำหรับบริษัทผู้ให้เช่าจะรับผิดชอบในส่วนของค่าบำรุงรักษา ค่าประกันภัย ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ และเมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าแล้ว บริษัทผู้ให้เช่าสามารถนำทรัพย์สินดังกล่าวไปให้ผู้อื่นเช่าได้อีก ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าที่เช่ารถยนต์เพื่อการดำเนินงานในระยะยาว ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเอกชน บริษัมข้ามชาติ หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น 

     2. การให้เช่ารถยนต์ชั่วคราวในระยะสั้น (Rental) เป็นการให้เช่าที่ให้สิทธิลูกค้าเลือกที่จะใช้บริการเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน โดยมีรถยนต์ให้ เลือกใช้งานหลายประเภททั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถตู้ รถปิคอัพและรถจักรยานยนตร์ ที่มีให้เลือกหลายรุ่นหลายขนาด พร้อมทั้งให้บริการพนักงานขับรถหรือลูกค้าสามารถเลือกที่จะขับเองได้ ซึ่งลูกค้าที่ต้องการเช่ารถยนต์ชั่วคราวในระยะสั้น ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงบุคคลทั่วไปที่ต้องการเช่ารถยนต์เพื่อไปประกอบธุระส่วนตัวเป็นการชั่วคราว 

     “ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจรถเช่าในประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ให้บริการเช่ารถยนต์ชั่วคราวในระยะสั้น แบ่งเป็นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ในขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่จะเน้นให้เช่ารถยนต์เพื่อการดำเนินงานในระยะยาว ที่มีรถเช่าให้บริการนับพันคัน” 


โอกาสและความท้าทายของธุรกิจรถเช่าไทย

     ปัจจุบัน ธุรกิจรถเช่าของไทยมีมูลค่าตลาดประมาณ 16,000-18,000 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยปีละประมาณร้อยละ 10-15 มีจำนวนรถเช่ารวม กันกว่า 1.5 แสนคัน1 มีจุดให้บริการทั่วประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ เป็นต้น 

     สำหรับปี 2555 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ธุรกิจรถเช่าของไทยน่าจะมีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหนุนหลักมาจากความต้องการของลูกค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของลูกค้าองค์กร และบริษัทต่างๆ ที่ต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย รวมถึงลูกค้าใน กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่คาดว่า ในปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา จึงเป็นปัจจัยผลักดันให้ผู้ประกอบการมีการขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น รวมถึงจูงใจให้มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ส่งผลให้ภาวะการแข่งขันของธุรกิจรถเช่าไทยมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นท่ามกลางโอกาสและความท้าทายที่สูงขึ้น 

     อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธุรกิจรถเช่าของไทยจะมีโอกาสเติบโตและมีผู้ประกอบการสนใจที่จะเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจรถเช่าเพื่อการดำเนินการในระยะยาว รวมถึงรถเช่าชั่วคราวในระยะสั้น แต่การบริหารธุรกิจรถเช่าให้ประสบความสำเร็จนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ถึงแม้ว่าธุรกิจรถเช่าจะเป็นธุรกิจที่เข้าสู่ตลาดได้ง่ายก็ตาม แต่เนื่องจาก การทำธุรกิจรถเช่าจะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่แน่นอนหลายประการที่มีผลกระทบต่อการทำธุรกิจ ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องประเมินสถานการณ์และมีการวางแผนให้รัดกุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการ 

     ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสรุปโอกาสและความท้าทายของธุรกิจรถเช่าไทย โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

โอกาสความท้าทาย

       การขยายตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว นับเป็นโอกาสสำหรับ ธุรกิจรถเช่าไทย โดยเฉพาะรถเช่าชั่วคราวในระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือแม้แต่รถจักรยานยนต์ ที่เติบโตตามความต้องการของนักท่องเที่ยวมากขึ้น ประกอบกับนโยบายผลักดัน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของทางภาครัฐ ก็น่าจะเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจรถเช่าให้เติบโตเพิ่มขึ้น     
          การลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทย ที่มีแนวโน้ม ขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจรถเช่ามีโอกาสขยายตัว เพื่อรองรับกับจำนวนนักธุรกิจหรือความต้องการใช้บริการของบริษัทข้ามชาติ
    
          นโยบายประหยัดค่าใช้จ่ายของหน่วยงานหรือองค์กร ซึ่งยาน พาหนะที่ใช้ในองค์กร ก็เป็นหนึ่งในแผนการที่องค์กรส่วนใหญ่ต้องการปรับลดค่าใช้จ่าย จึงนำมาซึ่งโอกาสในการเติบโตของธุรกิจรถเช่าเพื่อการดำเนินงานในระยะยาว ที่จะรองรับกับความต้อง การของลูกค้าในกลุ่มนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ารายใหญ่ระดับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน

       ภาวะการแข่งขันที่รุนแรง เนื่องจากธุรกิจสามารถเข้าสู่ตลาด ได้ง่าย ส่งผลให้คาดว่าผู้ประกอบการจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ต้องเผชิญกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด ทั้งทางด้านราคาและคุณภาพ มาตรฐานในการบริการ
     
       ต้นทุนดำเนินการสูง เนื่องจากกการทำธุรกิจรถเช่า จะต้อง เผชิญกับปัจจัยที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะต้นทุนค่าดำเนินการต่างๆที่มีความแปรปรวน โดยเฉพาะต้นทุนค่าบำรุงดูแลรักษารถ และค่าซ่อมฉุกเฉินในกรณีที่รถเกิดความเสียหาย และดอกเบี้ย เป็นต้น
     
        การบริหารการตลาด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ประกอบการจะ ต้องคำนึง เพื่อให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการรถเช่าอย่างต่อเนื่อง มิเช่นนั้นผู้ประกอบการอาจจะต้องแบกรับต้นทุนที่สูง
    
        การบริหารราคาค่าเช่ารถ นับเป็นปัจจัยท้าทายสำหรับผู้ ประกอบการ เพราะหากผู้ประกอบการมีการบริหารค่าเช่าที่ไม่เหมาะสม ท้ายที่สุดตอนส่งต่อรถที่หมดอายุการใช้งาน อาจจะทำให้ขาดทุนได้ ดังนั้น การตั้งราคาค่าเช่ารถจะต้องมีการประเมิน ราคารถตอนหมดอายุการใช้งาน (บริหารซาก) ให้รอบคอบ เพื่อเวลาขายต่อจะได้ไม่ประสบปัญหาการขาดทุน เป็นต้น
   
          การบริหารจำนวนรถเช่า ให้เพียงพอกับความต้องการของ ลูกค้าโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวสำคัญๆ ซึ่งผู้ประกอบการรายย่อยอาจจะต้องหารถเช่าชั่วคราวเข้ามาเสริม เพื่อให้มีเพียงพอกับความต้องการลูกค้า
    
          ความเสี่ยงในการสูญหาย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ประกอบการ จะต้องให้ความระมัดระวัง และควรวางแผนป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างรัดกุม เช่น การทำประกันรถหาย การตรวจสอบข้อมูลของลูกค้าที่ทำการเช่า เป็นต้น
    
           ภัยธรรมชาติ มีผลต่อความต้องการใช้บริการรถเช่า ทั้งใน ส่วนของภาคธุรกิจ และนักท่องเที่ยว กล่าวคือ บริษัทหรือโรงงานที่ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมก็จะต้องหยุดหรือปิดกิจการชั่วคราว ในขณะเดียวกันก็อาจจะกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงภาคธุรกิจรถเช่าเช่นกัน
     
          ภาวะเศรษฐกิจ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคการลงทุน รวม ถึงจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งท้ายที่สุดก็จะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงธุรกิจรถเช่า


ผลกระทบจาก AEC…ต่อธุรกิจรถเช่าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย

     การก้าวไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 นับว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่าของไทยมีความตื่นตัวไม่ต่างจาก ธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากหลายฝ่ายเกรงว่า ภายหลังการเปิดเสรี AEC จะส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่าของไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดย เฉพาะทุนใหญ่จากต่างชาติ (ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนที่อยู่นอกอาเซียน อาทิ เยอรมนี ญี่ปุ่น) ที่คาดว่า จะเข้ามาร่วมลงทุนทำธุรกิจรถเช่าในไทยมากขึ้น เพื่อรองรับกับการขยายตัวของตลาด แต่ในขณะเดียวกัน หากผู้ประกอบการไทยสามารถปรับตัวและสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจได้ การเปิดเสรี AEC ก็น่าจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

       การเติบโตของภาคธุรกิจท่องเที่ยวไทยและอาเซียน ที่คาดว่า ภายหลังจากการเปิดเสรี AEC จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและประเทศต่างๆในอาเซียนมากขึ้น ซึ่งจุดนี้ นับเป็นโอกาสในการขยายตลาดสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ให้บริการรถเช่าที่เน้นจับตลาดนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือตลาดท่องเที่ยวในอาเซียน โดยเฉพาะประเทศที่มีพรมแดนติดกับไทย อาทิ พม่า ลาว เวียดนาม และกัมพูชา เป็นต้น 

     อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่าที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆในอาเซียน จะต้องทำการศึกษากฎ ระเบียบการนำรถผ่านพรมแดนระหว่างประเทศอาเซียนก่อน เพื่อไม่ให้เป็นการดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมาย อาทิ หากต้องการทำธุรกิจรถเช่าท่องเที่ยวไปยังประเทศกัมพูชา พม่า ลาว เวียดนาม ก่อนอื่นผู้ประกอบการจะต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว และหากเป็นการบริการรถเช่าออกนอกประเทศ จะต้องมีเอกสารและเครื่องหมายกำกับรถทุกคัน ได้แก่ หนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศ เครื่องหมายแสดงประเทศ แผ่นป้ายทะเบียนรถภาษาอังกฤษ หรือในกรณีที่ไปเวียดนามจะต้องมีหนังสือรับรองการจดทะเบียนรถที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบ การจะต้องทำการศึกษากฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจรถเช่าไปยังประเทศต่างๆในอาเซียน แต่ทั้งนี้ คาดว่า ภายหลังจากการเปิดเสรี AEC ในปี 2558 ประเทศสมาชิกในอาเซียน อาจจะมีการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ที่เอื้อต่อการทำธุรกิจรถเช่าที่สะดวกขึ้น 

     ทั้งนี้ จะเห็นว่า ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่าของไทยเริ่มมีการปรับตัวเพื่อรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกันพอสมควร โดยเฉพาะ กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่และกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มสนใจหันมาขยายธุรกิจในส่วนของรถเช่าชั่วคราวระยะสั้น และมีสาขาที่ครอบคลุมในหลายพื้นที่มากกว่า โดยรูปแบบการดำเนิน ธุรกิจที่เห็นได้ชัดคือ บริษัทที่เปิดให้เช่ารถเพื่อการดำเนินการในระยะยาว เริ่มหันมาให้ความสำคัญของตลาดรถเช่าชั่วคราวระยะสั้นเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเน้นจับตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่คาดว่า จะขยายตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้น ถึงแม้ว่าภายหลังการเปิดเสรี AEC จะทำให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวมีการขยายตัวและเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจรถเช่า แต่คาดว่าผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีก็ต้องเผชิญ การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นเช่นกัน 

       แนวโน้มของการเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในอาเซียนของนักลง ทุนต่างชาติน่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น และประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คาดว่า จะมีนักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนทำธุรกิจมากขึ้น โดยจะเห็นได้จาก การรายงานของ BOI พบว่า ภาวะ การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.55) มีจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ซึ่งชี้ให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติยังให้ ความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงนับเป็นโอกาสที่กลุ่มลูกค้าต่างชาติที่เป็นระดับผู้บริหาร หรือเจ้าหน้าที่พนักงานในโรงงานต่างๆ อาจจะมีความต้องการรถเช่าเพื่อการดำเนินการเพิ่มมากขึ้น 

     อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดังกล่าวน่าจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่ารายใหญ่ หรือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดกลางขึ้นไป ที่มีความพร้อม ทางด้านปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทั้งการบริหารจัดการต้นทุน รวมถึงการบริการต่างๆที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นจำนวนรถที่ให้เช่า การประกันภัย รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้อย่างรวด เร็วในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพราะเชื่อว่าลูกค้าที่จะทำการเช่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นลูกค้าในระดับองค์กร หรือบริษัทเอกชนต่างๆ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับกับ ตลาดที่คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ 


โอกาส...การทำตลาดร่วมทุนในตลาดอาเซียนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย

     ธุรกิจรถเช่า เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีโอกาสขยายการลงทุนไปยังตลาดอาเซียนภายหลังมีการเปิดเสรี AEC แต่อาจจะเป็นในลักษณะของการร่วมทุน เพราะ การทำธุรกิจรถเช่าในตลาดอาเซียนสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะทำการตลาดโดยลำพัง อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะเผชิญกับความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง เพราะแม้แต่ผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่ารายใหญ่เอง ยังต้องอาศัยการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติในการที่จะเข้ารุกทำตลาดในอาเซียน 

     ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายใดที่สนใจที่จะขยายการลงทุนในตลาดอาเซียน เริ่มแรกผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรที่จะสร้างธุรกิจและตั้งรับกับการ เติบโตของธุรกิจภายในประเทศให้เข้มแข็ง และได้รับความน่าเชื่อถือจากลูกค้าในระยะหนึ่งก่อนจนอาจจะเกิดการบอกต่อไปยังกลุ่มลูกค้าอื่นๆ และหลังจากนั้นผู้ประกอบการก็อาจจะค่อยๆ เริ่มมองหาตลาดในอาเซียน โดยอาจจะเน้นการทำธุรกิจรถเช่าระยะสั้นเพื่อจับตลาดนักท่องเที่ยวน่าจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในระยะเริ่มต้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการก็ ควรที่จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่สำคัญ ดังนี้ 

       ทำการศึกษาตลาดของแต่ละประเทศในอาเซียน ว่าแต่ละ ประเทศมีศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจมากน้อยเพียงใด โอกาสและความเป็นไปได้ในการลงทุนทำธุรกิจ รวมทั้งโอกาสในการประสบความสำเร็จมีมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งจะต้องศึกษาคู่แข่ง ทางธุรกิจมีมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ อาจจะต้องใช้เวลาในการศึกษาตลาดค่อนข้างละเอียด และใช้เวลานานพอสมควรเพื่อให้ได้ภาพตลาดที่ชัดเจน 

       ศึกษาถึงข้อกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ในการทำธุรกิจ รถเช่าในแต่ละประเทศ ว่ามีเงื่อนไข หรือข้อบังคับรวมถึงข้อปฏิบัติทางกฎหมายอย่างไร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อาทิ การทำธุรกิจรถเช่าเพื่อการท่องเที่ยวในแต่ละประเทศ ผู้ประกอบการจะต้องจดทะเบียนประกอบธุรกิจนำเที่ยวในประเทศนั้นๆ ก่อน สำหรับลาวการลงทุนจะเป็นลักษณะของการร่วมทุนกับท้องถิ่น เพื่อสงวนอาชีพที่เกี่ยวข้องให้กับบุคคลในท้องถิ่น อาทิ ไกด์นำเที่ยว เป็นต้น ในขณะที่เวียดนามอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติถือหุ้นในสัดส่วน 100% เป็นต้น 

       หาพันธมิตรที่จะร่วมทุนทำธุรกิจ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควร ที่จะหาพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้พันธมิตรที่มีศักยภาพในการช่วยทำตลาด และมีเครือข่ายกว้างขวางพอที่จะทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักของลูกค้าได้เร็วขึ้น ก็น่าจะมีโอกาสที่จะเข้าไปขยายตลาดได้เร็วและง่ายขึ้น ทั้งนี้ พันธมิตรที่จะร่วมทุนทำธุรกิจด้วย อาจจะเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ทำธุรกิจรถเช่าอยู่ในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งมีความชำนาญในเรื่องของเส้นทางการท่องเที่ยว รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้ดี หรือธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธุรกิจโรงแรม หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เป็นต้น 

*ประเด็นที่น่าสนใจ* ปัจจุบันมีผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่าของไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีการให้บริการรถเช่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศต่างๆในอา เซียน อาทิ ลาว เวียดนาม กัมพูชา โดยเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่จะเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีการทำธุรกิจร่วมกับคนในพื้นที่ทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความ ชำนาญเส้นทางการท่องเที่ยว มีความรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งที่พักและร้านอาหารต่างๆ และสามารถพูดได้หลายภาษา โดยเฉพาะภาษาท้องถิ่น โดยจะมีท่ารถรับส่งนักท่องเที่ยวที่ กรุงเทพฯ หรือตามจุดต่างๆในจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างหนองคาย อุบลราชธานี เป็นต้น

ดังนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย อาจจะสานต่อธุรกิจโดยการขยายการลงทุนในตลาดอาเซียนร่วมกับพันธมิตรที่เป็นเครือข่าย และมีความสัมพันธ์อันดีจากการเคยทำธุรกิจร่วมกันมาก่อน โดยอาจจะไปตั้งเป็นธุรกิจรถเช่าไว้บริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศอาเซียน รวมถึงยังมีโอกาสแนะนำและให้บริการนักท่องเที่ยวดังกล่าวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวใน ประเทศไทยต่อได้ เป็นต้น



การปรับตัวของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี...เพื่อเตรียมรับมือกับการเปิดเสรี AEC

     จะเห็นว่า การก้าวไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นับเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่าเอสเอ็มอีของไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการพร้อมที่จะใช้โอกาสเหล่านี้ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของธุรกิจให้แข็งแกร่ง ท่ามกลางภาวะการแข่งขันของธุรกิจที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยการปรับตัวของผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่าของไทย มีดังนี้ 

       สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ด้วยการบริการที่เป็นมิตร และมีคุณภาพ ความสะดวก ความรวดเร็ว ตลอดจนการให้ความสำคัญและความต่อเนื่องของการบริการ นับเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจรถเช่ามีโอกาสได้รับการตอบสนองที่ดีจากลูกค้า 

       ให้บริการที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เฉพาะราย ลูกค้าแต่ละรายต่างมีความต้องการใช้รถเช่าที่แตกต่างกัน ดังนั้น ธุรกิจจะต้องเตรียมรถเช่าตามประเภท ยี่ห้อ รุ่น และติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ ตามการเรียกร้องของลูกค้า เพื่อ อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ 

       มีบริการหลังการให้เช่าครบวงจร เช่น การดูแลรักษารถยนต์ การจัดการซ่อมบำรุง บริการรถฉุกเฉิน บริการรถยนต์ทดแทน บริการพนักงานขับรถ และการประกันภัยรถยนต์ เป็นต้น 

       ให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนในการจัดหารถยนต์ให้เช่า โดยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ซึ่งจะทำให้ได้รับส่วนลดในการจัดซื้อรถยนต์ ค่าอะไหล่รถยนต์ และค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ เป็นต้น 

       สร้างภาพลักษณ์ของกิจการผ่านสื่อโฆษณาต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน และเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างกว้าง และรวดเร็ว ทั้งนี้ ในเว็บไซต์ควรใส่รายละเอียดต่างๆของการบริการให้ชัดเจน อีกทั้งอาจจะต้องมีระบบภาษาต่างประเทศ เพื่อรองรับลูกค้าชาวต่างชาติ 

       การทำโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ผู้ประกอบการอาจจะต้องมีการ ทำโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ อาทิ โปรโมชั่นลดราคาค่าเช่า หรือออกบู๊ทจัดโปรโมชั่นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจท่องเที่ยว เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็น ต้น 

       สร้างเครือข่ายศูนย์บริการให้เช่า และบริการหลังการเช่า ครอบคลุมในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ หากธุรกิจเริ่มเห็นถึงผลกำไร และการบริหารจัดการธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น ผู้ประกอบการอาจจะทำการศึกษาตลาดอื่นๆ เพื่อขยายธุรกิจให้ สามารถอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุมมากขึ้น รวมทั้งควรมีการสร้างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ และมีการบริการที่ครบวงจร อาทิ การ สร้างพันธมิตรกับศูนย์บริการซ่อมรถ สร้างพันธมิตรกับธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น 

      ดยสรุป “ธุรกิจรถเช่า” นับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในปัจจุบัน โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในปี 2555 ธุรกิจรถเช่าจะมีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่ม ขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 โดยมีปัจจัยหนุนหลักมาจากความต้องการของลูกค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของลูกค้าองค์กรและบริษัทต่างๆ ที่ต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและลดความยุ่งยากในการบริหารจัดการ รวมถึงลูกค้าในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น 

      ในขณะที่การก้าวไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ที่คาดว่าจะมีนักลงทุนต่างชาติสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในอาเซียนมากขึ้น รวมถึงคาดว่าภาคการท่องเที่ยวของอาเซียนจะ ขยายตัวมากขึ้นนั้น นับเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งหากผู้ประกอบการไทยสามารถปรับตัวและสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจได้ การเปิดเสรี AEC ก็น่าจะ เป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน หากผู้ประกอบการไม่พร้อมที่จะปรับตัวและรับมือกับการแข่งขันที่คาดว่าจะรุนแรงขึ้น ก็อาจจะทำให้ การดำเนินธุรกิจต้องเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้น 

      ดังนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะต้องเร่งปรับตัวและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจภายในประเทศ อาทิ การบริหารจัดการต้นทุน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า และการให้บริการและ อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าแบบครบวงจร โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพและความเอาใจใส่ในเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก นอกจากนี้ อาจจะมีการทำโปรโมชั่นพิเศษออกมาจูงใจให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง 

      และเมื่อธุรกิจภายในประเทศแข็งแกร่งแล้ว โอกาสที่จะออกไปขยายตลาดในอาเซียนก็อาจจะมีมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจรถเช่าในตลาดอาเซียนสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก และมีโอกาสเผชิญกับความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ประกอบการก็ควรที่จะพิจารณาปัจจัยแวดล้อมที่สำคัญต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนขยายธุรกิจ อาทิ ทำการศึกษาตลาดแต่ ละประเทศ ศึกษาข้อกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆในการทำธุรกิจ รวมถึงจะต้องหาพันธมิตรที่มีศักยภาพมาร่วมทำตลาด เป็นต้น 


แหล่งข้อมูล
www.tcra.or.th (สมาคมธุรกิจรถเช่าไทย)
www.maesaicustoms.com
ที่มา : http://www.ksmecare.com



กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน)

รถเช่าเช่ารถ,rent a car Bangkok,rent a car Thailandรถยนต์เช่าเช่ารถยนต์รถเช่ารายปีรถเช่ารายวัน, บริการรถเช่ารายวันบริการรถเช่าบริการเช่ารถรถเช่ากรุงเทพเช่ารถกรุงเทพรถเช่าขับเองเช่ารถขับเองรถยนต์ให้เช่ากรุงไทยคาร์เร้นท์carrentcarrentalkrungthaicarrent bangkokcarrent thailand, thailand thai bangkok car rental rent hire leasecar rental thailandauto hireauto leasingcar hirecar leasecar rent car rentaloperating leasekcarbangkokthaithailand



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น